ของที่ระลึกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
ข้อมูล : กลุ่มงานพิพิธภัณฑ์และจดหมายเหตุ สำนักวิชาการ
เผยแพร่ : 20 / กุมภาพันธ์ / 2566
ความสัมพันธ์ของรัฐสภาไทย - รัฐสภาจีน
ไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในกรอบทวิภาคีในรูปแบบหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ที่ครอบคลุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า การลงทุน การคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การทหารที่มีผลประโยชน์ต่างตอบแทน
ในส่วนความสัมพันธ์ของรัฐสภา ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับที่ดีต่อกัน ระดับทวิภาคี ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2537 รัฐสภาไทยได้จัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-จีน (Thailand-China Parliamentarians Friendship Group) และรัฐสภาสาธารณรัฐประชาชนจีน มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาจีน-ไทย เช่นเดียวกับรัฐสภาไทย โดยใช้ชื่อว่า NPC China-Thailand Parliamentary Friendship Group เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของรัฐสภาทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ รัฐสภาของทั้งสองประเทศมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันตลอดมา นอกจากนี้ ในระดับพหุภาคี รัฐสภาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ในรูปการเป็นภาคีสมาชิกสหภาพรัฐสภา (Inter-Parliamentary Union : IPU) สมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly : AIPA) และการประชุมรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific Parliamentary Forum : APPF) ร่วมกัน ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือในอันที่จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน โดยใช้กลไกทางสังคมและวัฒนธรรม มีการผสานความร่วมมือเพื่อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนไปสู่ความสัมพันธ์อันยั่งยืน การพบปะกันระหว่างสมาชิกรัฐสภาของทั้งสองประเทศกระทำในโอกาสที่คณะผู้แทนรัฐสภาทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนการเยือน และการเดินทางเข้าร่วมการประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศในองค์กรที่เป็นสมาชิกดังกล่าว รวมทั้งการประชุมเกี่ยวข้อง
ฝ่ายนิติบัญญัติของจีนเป็นระบบรัฐสภาเดียว โดยใช้ชื่อว่า สภาประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress หรือ NPC) มีจำนวนสมาชิกตามรัฐธรรมนูญ 3,000 คน มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี สมาชิกได้รับการเลือกตั้งจากสภาประชาชนของเขตปกครอง แบ่งเป็น 23 มณฑล (Provinces) 5 เขตปกครองตนเอง (Autonomous Regions) 4 เทศบาลพิเศษ (มหานคร) ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง (Municipalities) เขตบริหารพิเศษ (ฮ่องกงและมาเก๊า) รวมทั้งผู้แทนที่เลือกตั้งจากกองทัพ (People’s Liberation Army หรือ PLA) โดยวิธีลงคะแนนเสียงลับ