
ภาพจิตรกรรมพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์
พิพิธภัณฑ์รัฐสภา | 22 เมษายน 2564
“...ภาพจิตรกรรมนี้ จะเป็นถาวรวัตถุอนุสรณ์สำคัญ ก่อให้เกิดประโยชน์เอนกประการต่อการศึกษาและความเข้าใจอันดีของประชาชน ตลอดจนเป็นศรีสง่าแก่บ้านเมืองอีกด้วย ทั้งยังเป็นพลังศรัทธาที่จะถวายความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์...”
ย้อนอดีตเมื่อวันที่ 4 - 30 เมษายน 2525 รัฐสภาได้จัดแสดงภาพจิตรกรรมแสดงพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ณ อาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพฯ ในคราวสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยได้รับความร่วมมือจากคณะอนุกรรมการด้านพระมหากษัตริย์ ระดมจิตรกรที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศเป็นผู้วาดและมอบให้ไว้รัฐสภา ต่อมา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจึงได้นำภาพจิตรกรรมทั้งหมดไปจัดแสดงที่บริเวณผนังรอบห้องประชุมรัฐสภาชั้น 2 และชั้น 3 ณ อาคารรัฐสภา ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปี พ.ศ. 2561 เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณ และเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้น้อมรำลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระมหากษัตริย์ ในพระบรมราชจักรีวงศ์ที่ทรงมีต่ออาณาประชาราษฎร์
ที่มาแห่งอนุสรณ์สำคัญ
การจัดงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี คณะอนุกรรมการด้านพระมหากษัตริย์ได้อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการจัดโครงการสร้างสรรค์ภาพจิตรกรรมเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ โดยมีคณะทำงานเฉพาะคณะนี้คณะหนึ่ง และยังได้แยกออกเป็นอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ อีกหลายฝ่าย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยดีและทันเวลากำหนดการเฉลิมฉลองในเดือนเมษายน 2525
การสร้างสรรค์ภาพจิตรกรรมเริ่มต้นด้วยการแสวงหาข้อมูลจากประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ จำนวน 100 เรื่อง แล้วคัดเลือกไว้ 50 เรื่อง สำหรับสร้างสรรค์เป็นภาพจิตรกรรม จากนั้นได้เชิญจิตรกรทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่มาร่วมประชุมเพื่อเลือกสรรและมอบหมายให้เขียนภาพต่อไป ซึ่งเริ่มต้นจากการส่งภาพร่างประกอบสีให้อนุกรรมการฝ่ายต่างๆ พิจารณา จนเห็นสมควรแล้ว จึงมอบหมายให้เขียนภาพต่อไป
เรื่องราวในภาพจิตรกรรม
จากการคัดเลือกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ 50 เรื่อง เพื่อเขียนภาพนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งในพระราชกรณียกิจที่ทรงมีต่อประเทศและพสกนิกรชาวไทย ภายหลังคณะอนุกรรมการด้านพระมหากษัตริย์ได้อนุมัติให้สร้างสรรค์ภาพเพิ่มเติมอีก 30 ภาพ เพื่อความสมบูรณ์ของพระราชกรณียกิจ
ภาพจิตรกรรมนี้ จะเป็นถาวรวัตถุอนุสรณ์สำคัญ ก่อให้เกิดประโยชน์เอนกประการต่อการศึกษาและความเข้าใจอันดีของประชาชน ตลอดจนเป็นศรีสง่าแก่บ้านเมืองอีกด้วย ทั้งยังเป็นพลังศรัทธาที่จะถวายความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ เป็นการแสดงออกซึ่งกตัญญูกตเวทิกาคุณ รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองและสถาพรปลอดภัยมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

รัชกาลที่ 1
สร้างพระมหานครและพระบรมมหาราชวัง (พ.ศ. 2326)
จิตรกร : นายพิชัย นิรันดร์

รัชกาลที่ 2
ทรงสร้างสรรค์ทางด้านการปั้นและการแกะสลัก
จิตรกร : นายสมยศ ไตรเสนีย์

รัชกาลที่ 3
โปรดให้ตั้งชื่อกลองวินิจฉัยเภรี เพื่อให้ราษฎรมาตีกองร้องฎีกา
จิตรกร : นายปยุต เงากระจ่าง

รัชกาลที่ 4
ทรงจัดการทหารตามแบบอารยประเทศ
จิตรกร : นายเด่น จันทนโพธิ์

รัชกาลที่ 5
เสด็จประเทศรัสเซีย ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับพระเจ้าชาร์ นิโคลาส ที่ 2
จิตรกร : นายสมบูรณ์สุข นิยมศิริ

รัชกาลที่ 6
ทรงสร้างธงไตรรงค์แทนธงชาติเดิม
จิตรกร : นายมณเฑียร บุญมา

รัชกาลที่ 7
เสด็จทรงเปิดสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์
จิตรกร : นายสมทรง เวียงอำพล

รัชกาลที่ 8
เสด็จเยี่ยมราษฎรในสำเพ็ง
จิตรกร : นายวิฑูร โสแก้ว

รัชกาลที่ 9
ทรงแผ่พระเมตตาและทรงแนะนำให้ชาวเขาปลูกพืชอื่นแทนฝิ่น
จิตรกร : นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์