
อาคารรัฐสภาไทย
จากพระที่นั่งอนันตสมาคม...สู่สัปปายะสภาสถาน
วิลาสิณี ฉายรัตน์ตระกูล | 1 สิงหาคม 2563
...พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้พระราชทานพระที่นั่งอนันตสมาคม
ให้ใช้เป็นที่ประชุมสภาสืบต่อมา พระที่นั่งอนันตสมาคมจึงเป็นอาคารรัฐสภาแห่งแรก ซึ่งใช้เป็น
สถานที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของผู้แทนราษฎรไทยชุดแรก เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2475...
รัฐสภาไทยเป็นสถาบันทางการเมืองที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
มีหน้าที่หลักในการออกกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และให้ความเห็นชอบในเรื่องสำคัญของประเทศ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
รัฐสภาของประเทศไทยเกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้พระราชทานพระที่นั่งอนันตสมาคมให้ใช้เป็นที่ประชุมสภา พระที่นั่งอนันตสมาคมจึงเป็นอาคารรัฐสภาแห่งแรก ซึ่งใช้เป็นสถานที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของผู้แทนราษฎรไทยชุดแรก เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 และใช้เป็นที่ประชุมจนถึงปี 2517 ทั้งยังเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีและรัฐพิธีสำคัญต่าง ๆ อาทิ พระราชพิธีสถาปนาสยามมกุฎราชกุมาร พระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญ รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา

การประชุมสภา ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม

การประชุมสภา ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
พระที่นั่งอนันตสมาคมสร้างขึ้นเมื่อปี 2450 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ บริเวณลานพระราชวังดุสิต ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ ให้ใช้เป็นที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองราชอาคันตุกะและสถานที่สำหรับประชุมปรึกษาราชการแผ่นดิน โดยทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เป็นแม่กองจัดการก่อสร้าง นายมาริโอ ตามานโย สถาปนิกชาวอิตาลีเป็นนายช่างออกแบบ ศาสตราจารย์แกลิเลโอ คินี และนายซี ริกุลี เป็นช่างเขียนภาพ
องค์พระที่นั่งฯ สร้างด้วยหินอ่อนจากเมืองคารารา ประเทศอิตาลี ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาการแห่งอิตาลี ลักษณะเป็นอาคารสูง 2 ชั้น มีโดมใหญ่อยู่ตรงกลาง และรายล้อมด้วยโดมเล็กอีก 6 โดม ชั้นบนเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งเป็นห้องโถงประชุมและห้องโถงสำหรับประกอบพิธีต่าง ๆ ส่วนชั้นล่างประกอบด้วยห้องขนาดเล็ก 10 ห้อง ห้องขนาดกลางและใหญ่ อย่างละ 2 ห้อง และมีห้องโถงตรงกลางอีก 1 ห้อง

การประชุมคณะกรรมธิการ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
ต่อมา เมื่อจำนวนสมาชิกสภาเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของจำนวนประชากรไทยที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้พระที่นั่งอนันตสมาคมคับแคบเกินกว่าที่จะใช้เป็นที่ประชุมสภาได้อีกต่อไป คณะรัฐบาลชุดจอมพล ถนอม กิตติขจร จึงได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ขอพระราชทานที่ดินทางทิศเหนือของพระที่นั่งอนันตสมาคม บริเวณถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพฯ ซึ่งเดิมเป็นของหน่วยรถถัง กรมตำรวจ เพื่อจัดสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ให้มีพื้นที่มากกว่าเดิม ซึ่งได้แก่ อาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน
โดยอาคารรัฐสภาแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2513 แล้วเสร็จในปี 2517 ด้วยการออกแบบของนายพล จุลเสวก นายช่างสถาปนิกเอกของกรมโยธาธิการ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการวาดแบบจากอาคารรัฐสภาบราซิล และมีบริษัทพระนครก่อสร้างเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ประกอบด้วยอาคาร 3 หลัง ได้แก่ อาคารห้องประชุมรัฐสภาและสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา อาคารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และอาคารสโมสรรัฐสภา โดยมีการใช้อาคารห้องประชุมรัฐสภาฯ เป็นที่ประชุมรัฐสภาครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2517 ซึ่งต่อมาได้มีการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมอีกหลายหลังภายในอาณาบริเวณของรัฐสภา อาทิ อาคารรัฐสภา 2 อาคารสโมสรรัฐสภาเล็ก อาคารกองรักษาการณ์และฝ่ายอาคารสถานที่

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ณ อาคารรัฐสภา 1 ถนนอู่ทองใน

การประชุมคณะกรรมธิการ ณ อาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน
อย่างไรก็ตาม เนื่องมาจากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรของประเทศ ตลอดจนจำนวนข้าราชการผู้ทำหน้าที่สนับสนุนภารกิจของสมาชิกรัฐสภา ที่เพิ่มขึ้น คณะรัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช จึงมีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บนที่ดินราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) เขตดุสิต กรุงเทพฯ ภายใต้การออกแบบของนายธีรพล นิยม ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) และคณะ จากบริษัทสงบ 1051 ซึ่งชนะการประกวดแบบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ในชื่อ “สัปปายะสภาสถาน” ซึ่งหมายถึง “สภาแห่งความสงบร่มเย็นและปัญญา” ในปี 2552 และมีบริษัท ซิโน–ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง

อาคารรัฐสภา "สัปปายะสภาสถาน"
“สัปปายะสภาสถาน”
อาคารรัฐสภาแห่งใหม่เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี 2554 มีรูปแบบอาคารเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ ลักษณะเป็นอาคารสูง 9 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น รวม 11 ชั้น การตกแต่งภายในอาคารเป็นแบบอาคารสมัยใหม่ ซึ่งคำนึงถึงระบบการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาที่ต้องสอดประสานกันตามบทบาทหน้าที่ขององค์กรนิติบัญญัติภายใต้รัฐธรรมนูญ มีห้องประชุมสภาเป็นรูปทรงครึ่งวงกลม 2 ห้อง คือห้องประชุมพระสุริยันสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และห้องประชุมพระจันทราสำหรับการประชุมวุฒิสภา
แม้ว่าสัปปายะสภาสถานจะเป็นอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ แต่พระที่นั่งอนันตสมาคม และอาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน ยังคงเป็นสถานที่ซึ่งอยู่ในความทรงจำของผู้คน ในฐานะสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นสถานที่ประชุมของรัฐสภาไทย ในการทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติแทนปวงชนชาวไทยภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ข้อมูลจาก : รายการ ร้อยเรื่อง...เมืองไทย